เมนู

บทว่า ธมฺเม คือในปริยัติธรรม และปฏิเวธธรรม. ก็เมื่อสงสัยใน
ปริยัติธรรม ย่อมสงสัยว่า อาจารย์ทั้งหลายกล่าวกันว่า พระไตรปิฎกพุทธพจน์
มีแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ ดังนี้ พระพุทธพจน์นั้นมีอยู่ หรือไม่มีหนอดังนี้.
เมื่อสงสัยในปฏิเวธธรรม ย่อมสงสัยว่า อาจารย์ทั้งหลายกล่าวกันว่า ผลแห่ง
วิปัสสนา ชื่อว่ามรรค ผลของมรรค ชื่อว่าผล ธรรมที่สละคืนสังขารทั้งปวง
ชื่อว่านิพพาน ดังนี้ นิพพานนั้นมีอยู่ หรือไม่มีหนอ ดังนี้.
บทว่า สงฺเฆ กงฺขติ ความว่า ย่อมสงสัยว่า ชื่อว่าสงฆ์ ผู้ดำเนิน
ตามปฏิปทาเห็นปานนี้ ตามบทเป็นต้นว่า อุชุปฏิปนฺโน ดังนี้ เป็นชุมนุม
แห่งบุคคล 8 คือ ท่านผู้ตั้งอยู่ในมรรค 4 ท่านผู้ตั้งอยู่ในผล 4 มีอยู่ หรือไม่มี
หนอดังนี้.
เมื่อสงสัยในสิกขา ย่อมสงสัยว่า อาจารย์ทั้งหลายกล่าวกันว่า อธิสีล-
สิกขา อธิจิตตสิกขา อธิปัญญาสิกขาดังนี้ สิกขานั้นมีอยู่ หรือไม่มีหนอดังนี้.
บทว่า อยํ ปญฺจโม ความว่า ภาวะนี้เป็นความกระด้าง ความเป็น
ขยะ เป็นหลักตอแห่งจิตข้อที่ห้า คือความขัดเคืองในเพื่อนสพรหมจารี.
จบอรรถกถาเจโตขีลสูตรที่ 5

6. วินิพันธสูตร


ว่าด้วยเครื่องผูกพันใจ 5 ประการ


[206] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เครื่องผูกพันใจ 5 ประการนี้ 5 ประการ
เป็นไฉน ? คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ยังไม่ปราศจากความกำหนัด
ยังไม่ปราศจากความพอใจ ยังไม่ปราศจากความรัก ยังไม่ปราศจากความ